วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การสร้างชุดแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง สมการและการแก้สมการ




การสร้างชุดแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง สมการและการแก้สมการ
 
 
 
ชื่อเรื่อง                      การสร้างชุดแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
                                  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง สมการและการแก้สมการ

ผู้ศึกษาค้นคว้า           นางสาวรุ่งทิวา สิงหัดชัย
สถานศึกษา               โรงเรียนบ้านแก้งใหม่
                                  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1
ปีที่พิมพ์                    2554
 



 
 
 

บทคัดย่อ
 


 

การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) สร้างชุดแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง สมการและการแก้สมการ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดแบบฝึกทักษะ 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดแบบฝึกทักษะ 4) ศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดแบบฝึกทักษะ 5) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดแบบฝึกทักษะ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแก้งใหม่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1 จำนวน 17 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา มี 3 ชนิด คือ 1) ชุดแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถม ศึกษาปีที่ 6 เรื่อง สมการและการแก้สมการ จำนวน 15 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยาก ตั้งแต่ 0.33 ถึง 0.77 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.28 ถึง 0.75 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบเท่ากับ 0.88 และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดแบบฝึกทักษะ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ซึ่งมี 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก ระหว่าง 0.52 ถึง 0.78 ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ 0.83 วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ โดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผล และทดสอบสมมติฐานใช้ t – test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาค้นคว้า ปรากฏผลดังนี้

1. ชุดแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง สมการและการแก้สมการ ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.04/81.18 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง สมการและการแก้สมการ มีค่าเท่ากับ 0.7440 หมายถึง ผู้เรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 74.40

3. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง สมการและการแก้สมการ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง สมการและการแก้สมการ มีความคงทนในการเรียนรู้เมื่อเวลาผ่านไป 2 สัปดาห์

5. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียน โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง สมการและการแก้สมการ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ชุดแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง สมการและการแก้สมการ ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพสามารถนำมาใช้เป็นสื่อนวัตกรรม เพื่อใช้แก้ปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้สูงขึ้น มีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนและเป็นแนวทางในการพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะในเรื่องอื่นๆ ได้



 
























 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น